เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อทำให้คุณมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ โปรดคลิก “ยอมรับ”

บทสัมภาษณ์ กว่าจะเป็น MU – IR Ambassador 2019 ทูตด้านวิเทศสัมพันธ์ และประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีของมหาวิทยาลัยมหิดล

นายธนภัทร จำนงรัตน์ หรือน้องปาล์ม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รับคัดเลือกให้เป็น MU-IR Ambassadors 2019 จากกิจกรรม MU-IR Ambassadors Contest 2019 ซึ่งจัดขึ้นโดยกองวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหิดล กิจกรรมนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกนักศึกษาระดับปริญญาตรีที่มีความสามารถและศักยภาพ มาปฏิบัติหน้าที่ผู้นำนักศึกษาและเป็นทีมจัดกิิจกรรมด้านวิเทศสัมพันธ์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมระดับนานาชาติทั้งในและต่างประเทศในฐานะผู้แทนของมหาวิทยาลัย โดยพี่ ๆ ทีมงาน ICT Spotlight ได้พูดคุยกับน้องปาล์มว่ากว่าจะได้รับคัดเลือกให้ได้เป็น MU-IR Ambassadors นั้น ต้องเตรียมตัวอย่างไร และต้องผ่านอะไรมาบ้าง ติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ

MU – IR Ambassador คืออะไร และตำแหน่งนี้มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง

MU – IR Ambassador เป็นกลุ่มนักศึกษาตัวแทนของมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะทำหน้าที่ด้านวิเทศสัมพันธ์ครับ เช่น ช่วยดูแลนักศึกษาชาวต่างชาติ จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมบรรยากาศความเป็นสากล การต้อนรับแขกจากต่างประเทศ การนำชมมหาวิทยาลัย และเป็นตัวแทนนักศึกษาในการร่วมกิจกรรม สัมมนา แข่งขัน ค่ายเยาวชนระดับนานาชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้นครับ

ทราบข่าว MU – IR Ambassador นี้ได้อย่างไร และถ้าสนใจอยากสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ มีเกณฑ์อะไรในการรับสมัครบ้าง

ผมทราบข่าวการรับสมัครจากบอร์ดประกาศในมหาวิทยาลัยครับ ซึ่งเกณฑ์การรับสมัครหลัก ๆ ในปีที่ผมสมัคร  คือ จะต้องเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ในระดับปานกลางถึงดีมาก  สามารถแบ่งเวลาและทำงานเป็นทีมได้ ครับ

ทราบมาว่ามีกิจกรรมการเข้าค่ายฝึกอบรม MU-IR Ambassador Camp ด้วย ช่วยเล่าบรรยากาศ และประโยชน์ในการเข้าค่ายนี้ให้ฟังหน่อยค่ะ

MU-IR Ambassador Camp ปี 2019 จัดขึ้น 4 วันครับ  โดยใน 2 วันแรกจะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะเกี่ยวกับ intercultural awareness Interpersonal skills ต่าง ๆ โดยในส่วนนี้จะได้ความรู้กันอย่างเข้มข้นเลยครับ แต่บรรยากาศนั้นจะไม่เครียดนะครับ เพราะอาจารย์ก็เป็นกันเองมาก และรับฟังความคิดเห็นตลอด  นอกจากนี้ อาหารว่างก็อร่อยมาก ๆ ด้วยครับ

สำหรับวันที่ 3 จะเป็นการทำกิจกรรม SDG (Education) ครับ ซึ่งในปีนี้ก็ได้ไปสอนภาษาอังกฤษและจัดกิจกรรมให้กับน้อง ๆ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง จ.กาญจนบุรีครับ ซึ่งอันนี้จะเหนี่อยเล็กน้อย แต่พอได้เห็นน้อง ๆ สนุก ผมก็มีความสุขตามไปด้วยครับ นอกจากนี้ แม้ว่าระหว่างการทำกิจกรรม จะมีผิดแผนตามกำหนดการที่ได้นัดกันไปบ้างแต่พี่ ๆ staff จากกองวิเทศสัมพันธ์ก็อยู่ช่วยกันแก้ไขปัญหาตลอด

ส่วนตัวแล้วผมชอบกิจกรรมนี้มาก ๆ ครับ ในช่วงท้ายของค่ายก็มีกิจกรรมจากรุ่นพี่ MU-IR Ambassador ในปีก่อน ๆ มีการทดสอบไหวพริบนิดหน่อย  ซึ่งผมขอไม่เล่ารายละเอียดให้ฟังนะครับ  ถ้าน้อง  ๆ อยากสนุกและได้รับประสบการณ์แบบผม ต้องลองสมัครเข้ามาร่วมโครงการกันดูครับ

เพราะอะไรจึงสมัครเข้าโครงการนี้

ช่วงปีหนึ่งสำหรับผมถือเป็นช่วงเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในมหาวิทยาลัยครับ ทั้งประสบการณ์เรื่องการเรียน เรื่องเพื่อน และเรื่องกิจกรรม ซึ่งผมคิดว่าการเข้าโครงการนี้น่าจะช่วยให้ผมเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านี้ได้มากครับ

เตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้อย่างไรบ้าง

สำหรับผมเองไม่ได้เตรียมตัวเลยครับ ออกแนวเตรียมใจมากกว่า การเตรียมใจที่ว่านั้นคือการเตรียมใจไปผจญภัยหาโอกาสใหม่ ๆ ครับ แต่ถ้าให้ผมแนะนำว่าควรเตรียมตัวอย่างไร ผมคิดว่าควรเตรียมตัวเกี่ยวกับทักษะด้านภาษาอังกฤษไปจะเป็นผลดีมาก ๆ ครับ

ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่า ยากมากไหมกว่าจะได้รับเลือกให้เป็น MU – IR Ambassador

ไม่ยากเลยครับ เพราะคณะกรรมการนั้นจะคัดเลือกจากใบสมัคร ประวัติและผลงาน ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น แต่หลัก ๆ เลยคือคัดเลือกจากการแสดงทัศนคติครับ ถ้าเรากล้าที่จะแสดงจุดยืน มีใจเปิดกว้างต่อการเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ และมีทักษะด้านภาษาอยู่บ้าง แค่นี้ตำแหน่ง MU – IR Ambassador ก็ใกล้แค่เอื้อมแล้วครับ

สุดท้าย อยากฝากอะไรกับเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่อยากเข้าร่วมโครงการ MU – IR Ambassador บ้าง

การมาเป็นครอบครัว MU – IR Ambassador นั้นจะทำให้ชีวิตในมหาวิทยาลัยของเรา เจ๋งขึ้นได้จริง ๆ นะครับ เรียนในห้องก็คงจะได้ hard skills ไปมาก แต่ถ้าเราอยากพัฒนาในส่วนของ soft skills ด้วย การมาเป็น MU – IR Ambassador ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีมาก ๆ เลยครับ